ราชมงคลสุวรรณภูมิ ผนึกกำลังหนานจิง ออดิท ยูนิเวอร์ซิตี้ ตั้งสถาบันตรวจสอบและธรรมาภิบาลระหว่างประเทศ ไทย-จีน ปูทางสู่การศึกษาระดับโลก
เมื่อวันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2568 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ร่วมกับ หนานจิง ออดิท ยูนิเวอร์ซิตี้ (NAU)จากมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการศึกษาระหว่างประเทศเพื่อร่วมกันพัฒนาหลักสูตรและสร้างศูนย์ความร่วมมือระหว่างสองมหาวิทยาลัย ภายใต้แนวคิด "สถาบันตรวจสอบและธรรมาภิบาลระหว่างประเทศ โครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative) โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.ประมุข อุณหเลขกะ อธิการบดี มทร.สุวรรณภูมิ และศาสตราจารย์ ดร. Lu Hauliang อธิการบดี NAU เป็นผู้ลงนาม และมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาสพิรุฬห์ วัชระศรีสำเริง รองอธิการบดี พร้อมด้วย ดร.สัมพันธ์ สุกใส คณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ร่วมเป็นสักขีพยาน
วัตถุประสงค์หลักของการลงนามในครั้งนี้คือการสร้างความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตร Dual Degree Program ในสาขาตรวจสอบและธรรมาภิบาล โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการป้องกันการทุจริตและส่งเสริมการปฏิบัติธรรมาภิบาลที่โปร่งใส ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาในระดับประกาศนียบัตร ปริญญาตรี และบัณฑิตศึกษาได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบการตรวจสอบในภาครัฐและเอกชน ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องร่วมกันในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการพัฒนาหลักสูตรการตรวจสอบ และการจัดสัมมนาวิชาการนานาชาติ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวิชาการในระดับสากล รวมถึงการสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทย และเป็นการส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรที่มุ่งเน้นการตรวจสอบและธรรมาภิบาลเพื่อสร้างสังคมที่โปร่งใสและปราศจากการทุจริต”
การลงนามใน MOU ครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะประธานกรรมการโครงการหลักสูตรนวัตกรรมการตรวจสอบภาครัฐและเอกชน นางสิรินทร์ แดงไชยวัฒน์ อดีตรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และนายธีรพล ขุนเมือง กรรมการสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ในฐานะที่ปรึกษาโครงการหลักสูตรนวัตกรรมการตรวจสอบภาครัฐและเอกชน ร่วมพิธีลงนามในครั้งนี้ การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรการตรวจสอบที่ตอบโจทย์การป้องกันการทุจริตและส่งเสริมธรรมาภิบาลทั้งในไทยและจีน ภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตในการสร้างสังคมที่โปร่งใสและพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านธรรมาภิบาลและการป้องกันการทุจริตในระดับสากล
รูปภาพเพิ่มเติม : https://shorturl.asia/h4wPu
เอกสารแนบ : cf20250107173012.jpg