ราชมงคลสุวรรณภูมิ ผสานเทคโนโลยี CFD สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง 600 ปี วัดราชบูรณะ สู่เวทีระดับโลก!
การบูรณาการศาสตร์ด้านวิศวกรรมกับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ และนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีพลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณ (CFD) ในการอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุ 600 ปีที่วัดราชบูรณะ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ถือเป็นความสำเร็จที่ได้รับการยอมรับจากระดับนานาชาติ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังผลงานนี้คือ รองศาสตราจารย์ ดร.มงคล แก้วบำรุง อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา และคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ, มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยงานวิจัยนี้ได้รับความสนใจจากบริษัทชั้นนำด้านซอฟต์แวร์จำลองพลศาสตร์ของไหลอย่าง ANSYS Inc. และ CYBERNET ซึ่งได้ส่งคณะนักวิจัยและผู้บริหารระดับสูงจากหลากหลายประเทศเพื่อศึกษาและติดตามผลงานนี้
รองศาสตราจารย์ ดร.มงคล แก้วบำรุง กล่าวว่า การศึกษาและการอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีอายุหลายศตวรรษนั้นเป็นงานที่มีความท้าทายสูง ทั้งในแง่ของงบประมาณและการพัฒนาเครื่องมือทางวิศวกรรมที่เหมาะสม แต่ด้วยความพยายามและความมุ่งมั่นจากทีมวิจัยไทย ผลลัพธ์ที่ได้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน งานวิจัยดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างความภาคภูมิใจให้กับวงการวิศวกรรมไทย แต่ยังเป็นการนำเสนอแนวทางใหม่ในการบูรณาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับการอนุรักษ์สิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรมในระดับโลก โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยี CFD ที่หลายคนอาจจะมองว่าไม่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ แต่กลับกลายเป็นเครื่องมือที่มีบทบาทสำคัญในการเข้าใจและรักษาภาพจิตรกรรมที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ ซึ่งการได้รับการยอมรับจากสถาบันและองค์กรระดับนานาชาติเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักวิจัยไทยในการสร้างนวัตกรรมที่มีความสำคัญต่อการอนุรักษ์และพัฒนาสังคมต่อไปในอนาคต